Hora Clinic
ทำความรู้จัก AestheFill กระตุ้นคอลลาเจนด้วย PDLLA ตัวดังจากเกาหลี ช่วยให้ผิวกระชับ อิ่มฟู ลดริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก ผิวเด็กยาวนาน 2 ปี AestheFill คืออะไร? ราคา AestheFill? AestheFill ดีมั้ย? ทำไมต้องฉีด AestheFill? AestheFill รีวิว? AestheFill เหมาะกับใคร?
AestheFill คืออะไร?
ตัวช่วยกระตุ้นคอลลาเจนสุดปัง โปรแกรมฉีด AestheFill เป็นอนุภาคของสาร PDLLA (Poly D, L-Lactic Acid) สารสกัดที่มาแรงมากๆ จากประเทศเกาหลี มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในเชิงการแพทย์มายาวนานตั้งแต่ปี 2014 มีคุณสมบัติฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างผิวชั้นลึก กระตุ้นคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว ทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไปเมื่ออายุมากขึ้น เติมเต็ม ยกพยุงผิวหน้า ยืดหยุ่น
หลังจากฉีดผิวจะค่อยๆ เต็มอิ่มขึ้น หน้ายก ลดเลือนริ้วรอย ผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเรียบเนียน ทำให้ผิวแข็งแรงจากภายใน คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอย่างเป็นธรรมชาติภายใน 2-3 สัปดาห์ ได้รับรองมาตรฐาน FDA เกาหลี ไทย ยุโรป จีน และอเมริกา AestheFill อุดมไปด้วย Lactic acid 2 ชนิด ได้แก่ L-lactic acid, and D-lactic acid ผ่านการ polymerization จนกลายมาเป็น PDLLA ส่วนผสมหลักของ AestheFill
AestheFill ช่วยอะไรได้บ้าง ?
-
ช่วยฟื้นฟูผิวชั้นลึก ช่วยให้ผิวแข็งแรง กระตุ้นคอลลาเจนได้ดี
-
ช่วยยกกระชับผิว ยกพยุงผิวที่หย่อนคล้อยอย่างเป็นธรรมชาติ
-
ช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกให้ดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ
-
ช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ ให้ผิวตึงกระชับ ผิวเรียบเนียน ขึ้น
-
ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส ใบหน้าดูสดใส ดูเด็ก
คำถามที่สงสัยคือ คอลลาเจน (Collagen) สำคัญอย่างไร ทำไมต้องกระตุ้นสร้างคอลลาเจนใหม่?!
คอลลาเจน – Collagen โปรตีนที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้น เป็นส่วนประกอบหลักของผิว กล้ามเนื้อ รวมเนื้อเยื่อเกี่ยวพันส่วนอื่นๆ ถือว่าเป็นโปรตีนที่มีมากที่สุดในร่างกายสัดส่วน 30% คอลลาเจน มีหน้าที่ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น พยุงโครงสร้างของผิวหนัง ผิวพรรณชุ่มชื้นยกกระชับ ซ่อมแซมผิวหนังเวลาเกิดบาดแผลหรือมีการบาดเจ็บ เมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนจะลดลง เป็นกระบวนการเสื่อมถอยของร่างกายที่ไม่สามารถหยุดได้ ทำให้ผิวเรามีสภาพแย่ลงเรื่อยๆ หลายคนจึงพยายามเพิ่มคอลลาเจนให้กับร่างกาย หวังผลให้ผิวยืดหยุ่น เต่งตึง อ่อนกว่าวัย และสุขภาพดีอยู่ตลอดเวลา คอลลาเจนที่พบในปัจจุบันมีอยู่ 28 ชนิด ส่วนที่ร่างกายนำไปใช้ แต่มีที่พบมากที่สุดอยู่ 5 ชนิด คือ
- คอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type 1) พบได้มากที่สุดประมาณ 90% ของร่างกาย ทำหน้าเป็นโครงสร้างให้กับผิวโดยจะคอยช่วยเหลือให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น เป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างกระดูก ผิวพรรณ และเส้นเอ็น มีความสำคัญกับผิวอย่างมาก ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ช่วยให้ผิวแน่นกระชับไม่หย่อนคล้อย
- คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen Type 2) พบได้มากที่สุดในกระดูกอ่อน เช่นหู จมูก หลอดลม และ กระดูกซี่โครง ช่วยบำรุงไขข้อ กระตุ้นการสังเคราะห์เซลล์ ลดอัตราการเสื่อมของกระดูก ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวสะดวกขึ้น
- คอลลาเจนชนิดที่ 3 (Collagen Type 3) พบได้ใน กล้ามเนื้อ อวัยวะ ผิวหนัง และหลอดเลือดแดง คล้ายกับชนิดที่ 1 แต่จะพบได้น้อยกว่า ช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ และ ลดอาการบาดเจ็บขณะออกกำลังกาย
- คอลลาเจนชนิดที่ 4 (collagen Type 4) พบได้ในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อ และไขมัน ช่วยการทำงานของระบบประสาท รักษาความสมบูรณ์ของผนังหลอดเลือดในข้อต่อ
- คอลลาเจนชนิดที่ 5 (Collagen Type 5) พบได้ในบริเวณเดียวกับคอลลาเจนชนิดที่ 1 มักพบในผิวของเซลล์ เส้นผม เนื้อเยื่อของทารกในระหว่างตั้งครรภ์ มีหน้าที่ช่วยจัดระเบียบเซลล์ และควบคุมการเจริญเติบโตของเส้นใยภายในชั้นผิวหนัง
เมื่อผิวแข็งแรง มีคอลลาเจนเยอะๆ จะช่วยอะไร ?
-
ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย
-
ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ไม่มีริ้วรอย
-
ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ
-
ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ฉ่ำน้ำ
-
ช่วยป้องกันอาการแพ้จากสภาพแวดล้อมต่าง
กระบวนการทำงานของ AestheFill
AestheFill คือ สารที่มีคุณสมบัติกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว PDLLA (Poly D, L-Lactic Acid ผ่านการรับรอง FDA ประเทศไทย ว่ามีความปลอดภัย สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างเหลืออยู่ในร่างกาย ลักษณะจะโมเลกุลจะก้อนกลมๆ คล้ายกับใยบวบมีรูพรุนรอบๆ เมื่อฉีด AestheFill ใต้ผิวจะช่วยเพิ่มวอลลุ่มและยกพยุงผิวได้ดี
AestheFill ก่อนนำไปฉีดจะถูกผสมด้วย Sterile water หลังฉีดในช่วง 2 – 10วันแรก ผิวบริเวณที่ฉีดจะดูเต็มอิ่มฟูทันทีจากโมเลกุลของ AestheFill ที่เป็นลักษณะทรงกลม ช่วยปรับรูปหน้า ยกพยุงผิวได้ และระหว่างนั้นผิวถูกกระตุ้นสร้างคอลลาเจนใหม่ ตัวยาจะกระจายตัวไปทั่วชั้นผิว ส่งสัญญาณไปที่ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ที่เป็นตัวสร้างโปรตีนสองชนิด คือ คอลลาเจนและอิลาสติน สร้างคอลลาเจนเข้ามารวมตัวกันและเพิ่มจำนวน จึงเกิดการสร้างคอลลาเจนได้มากขึ้น สร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างผิวภายใน คอยพยุงผิวหนังชั้นเดอมิส (dermis) หรือผิวหนังชั้นกลางที่ประกอบด้วยเนื้อเยื่อเกี่ยวพันยืดหยุ่น เมื่อเวลาผ่านไป AestheFill ที่ฉีดเข้าไปจะค่อยๆ สลายตามกลไกธรรมชาติ แต่สิ่งที่เหลืออยู่คือเส้นใยคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้นแทน ช่วยผิวแข็งแรงได้ระยะยาว คงผลลัพธ์เรื่องการยกกระชับและฟื้นฟูผิวได้นาน 2 ปี
-
ก่อนฉีดผิวมีปัญหาร่องลึกและริ้วรอยจากการสูญเสียคอลลาเจนใต้ผิว เพื่อกระตุ้นผิวให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่
-
หลังฉีดทันที เติมเต็มปริมาตรใต้ผิวด้วย AestheFill และกระตุ้นให้ผิดเกิดการอักเสบ
-
หลังฉีด 1-2 สัปดาห์ กระตุ้นสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว เติมเต็ม ยกพยุงผิวหน้า
-
ผลลัพธ์หลังฉีด ริ้วรอย ร่องลึก ความหย่อยคล้อยลดลง ผิวมีคอลลาเจนมากขึ้น ผิวสุขภาพดีขึ้น
AestheFill เหมาะกับใคร ?
-
เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ ผิวขาดความยืดหยุ่น
-
เหมาะกับผู้ที่ริ้วรอยร่องลึก เห็นริ้วรอยชัดเมื่ออายุมากขึ้น
-
เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างผิวภายใน ผิวที่ขาดการดูแลเป็นเวลานาน
-
เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์หลังฉีดยาวนาน ไม่ต้องฉีดบ่อยๆ
ขั้นตอนการฉีด AestheFill
-
เข้ารับการตรวจประเมินสภาพผิว สอบถามปัญหาที่กังวล และรับคำปรึกษาจากแพทย์ รับทราบข้อมูล ข้อปฏิบัติก่อนและหลังทำ Aesthefill
-
แปะยาชาในบริเวณที่ฉีด ประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง
-
ขณะที่แปะยาชา แพทย์จะทำการเตรียม Aesthefill ให้พร้อมสำหรับการฉีด ผสม Aesthefill เข้ากับน้ำกลั่นปราศจากเชื้อ (Sterile water)
-
เช็ดยาชา มาพบคุณหมอรับการฉีด Aesthefill ใต้ชั้นผิว 1.5-2 เซนติเมตร ด้วยเข็มปลายทู่ขนาด 22-25 G ตามจุดและเทคนิคของคุณหมอ
-
หลังฉีดเสร็จ คุณหมอและผู้ช่วยแพทย์ จะนวดวนๆ บนใบหน้าเบาเพื่อให้ตัวยากระจายตัวใต้ชั้นผิว กระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณที่ต้องการ
-
เสร็จขั้นตอนรับบริการ Aesthefill
AestheFill ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?
AestheFill สารสกัดธรรมชาติ PDLLA (Poly D, L-Lactic Acid) พร้อมคุณประโยชน์มากมาย สามารถเลือกฉีดได้หลากหลายจุด ตามบริเวณที่ต้องการรักษาและฟื้นฟูผิวให้กลับมาอิ่มฟูและอ่อนวัยอีกครั้ง เช่น ฉีดเน้นเฉพาะหน้าแก้มที่มีปัญหา แก้ไขใต้ตาให้ดูเต็มอิ่ม ฉีดยกพยุงผิวบริเวณร่องแก้ม เติมเต็มขมับ และฉีดกรอบหน้าทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อผิวกระชับ กรอบหน้าชัด รวมไปถึงจุดอื่นๆ ที่มีปัญหาผิว โดยบริเวณที่ฉีด ปริมาณยา และจำนวนจุดที่ฉีดจะอยู่ในความดูแลของแพทย์เป็นหลัก
AestheFill ดีไหม ? ต้องฉีดกี่ครั้ง ? อยู่ได้นานแค่ไหน?
การฉีด AestheFill เมื่อคุณหมอประเมินว่าเป็นผู้ที่มีปัญหาผิวไม่มากนัก ปริมาณที่แนะนำให้ฉีดคือ ครั้งละ 1 ขวด ต่อเนื่อง 3 ครั้ง ระยะเวลาห่างกันครั้งละ 4-6 สัปดาห์ (เป็นปริมาณที่ผ่านการศึกษาแล้วว่าได้ผลลัพธ์ดีที่สุด) หากคุณหมอประเมินว่าเป็นผู้ที่มีปัญหาผิว ต้องรับการแก้ไขเร่งด่วนแนะนำฉีดครั้งละ 2 ขวด ต่อเนื่อง 3 ครั้ง ระยะเวลาห่างกันครั้งละ 4-6 สัปดาห์เช่นกัน เพื่อรักษาอัตราการสร้างคอลลาเจน และทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น จากนั้นจะคงสภาพผิวได้ประมาณ 2 ปี
คำถามนี้ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผิวและผลลัพธ์ที่ต้องการ หากใช้รักษาตรงจุด ตรงปัญหา AestheFill ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้แก่ผิว ฟื้นฟูผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเรียบเนียน ดูอ่อนวัยขึ้น สุขภาพดีเปล่งปลั่งได้ แต่ปัญหาผิวหน้าของเรา เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม การใช้ชีวิต การพักผ่อน ความเครียด รวมถึงโครงสร้างผิว โรคภูมิแพ้ ดังนั้นการแก้ไข หรือผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษา จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับดุลพินิจและการวินิจฉัยของแพทย์ผู้ทำการรักษาร่วมด้วย
